รายละเอียดบล็อก
ประเทศจีนเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย และความทันสมัยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการสำรวจเมืองเก่าแก่ที่มีกลิ่นอายของอดีต หรือหลงใหลในเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าและเทคโนโลยีล้ำสมัย จีนมีทุกอย่างให้คุณได้สัมผัส ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Top 5 Cities in China ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากมุมมองของนักท่องเที่ยว พร้อมเหตุผลที่ควรไปเยือน ช่วงเวลาที่เหมาะสม สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด และเคล็ดลับการเดินทางที่ครอบคลุมทั้งนโยบายวีซ่า เที่ยวบิน การคมนาคม ที่พัก และวิธีการชำระเงิน เพื่อให้คุณวางแผนทริปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมืองทั้งห้าที่เราคัดเลือกมาในครั้งนี้ ได้แก่ ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, เฉิงตู, และซีอาน ล้วนแต่เป็นเมืองที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือความทันสมัย เมืองเหล่านี้ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าเป็นจุดหมายที่ครบครันทั้งความสนุกสนานและความรู้ ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะติดอยู่ในลิสต์ Top 5 Cities in China ที่คุณควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต
ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของอดีตราชวงศ์จีนผ่านสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้ปักกิ่งเป็นหนึ่งใน Top 5 Cities in China ที่นักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด
พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City): อดีตที่ประทับของจักรพรรดิจีนที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่ เป็นมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ
กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China): สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ทอดยาวกว่า 21,000 กิโลเมตร เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่ของจีน
พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace): สวนหลวงที่สวยงามริมทะเลสาบคุนหมิง เหมาะสำหรับการพักผ่อนและถ่ายรูป
ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส ดอกไม้เริ่มบาน เหมาะสำหรับการเดินชมเมือง
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม): อากาศเย็นลง อุณหภูมิประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าโปร่งใส หลีกเลี่ยงความหนาวเย็นจัดของฤดูหนาวและความร้อนของฤดูร้อน
ปักกิ่งผสมผสานความเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว ทั้งวัดวาอารามโบราณและถนนทันสมัย รวมถึงการเป็นจุดเริ่มต้นของกำแพงเมืองจีน ทำให้เมืองนี้เป็นที่รักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในจีน เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าสูงตระหง่านและแสงสีที่งดงามยามค่ำคืน หากคุณชื่นชอบเมืองที่คึกคักและมีชีวิตชีวา เซี่ยงไฮ้คือหนึ่งใน Top 5 Cities in China ที่จะตอบโจทย์คุณ
หาดเจ้าพ่อ (The Bund): ริมฝั่งแม่น้ำหวงผู่ที่มองเห็นวิวตึกระฟ้าสุดอลังการ เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม
ตึกจินเหมา (Jin Mao Tower): ตึกสูงที่มีจุดชมวิวชั้น 88 มองเห็นเมืองเซี่ยงไฮ้แบบ 360 องศา
สวนยูหยวน (Yu Garden): สวนจีนโบราณที่เงียบสงบ ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองใหญ่
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): อากาศเย็นลง ฝนตกน้อย อุณหภูมิ 15-20 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการเดินเล่น
เซี่ยงไฮ้เป็นตัวแทนของจีนยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง อาหารอร่อย และวิวทิวทัศน์ที่ตื่นตา
กวางโจวเป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์การค้าขายกับต่างชาติ ทำให้เกิดการผสมผสานของวัฒนธรรมจีนและตะวันตก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารจีนที่ขึ้นชื่อ เช่น ติ่มซำ ทำให้เมืองนี้เป็นหนึ่งใน Top 5 Cities in China ที่น่ามาเยือน
หอคอยกวางโจว (Canton Tower): หอคอยที่สูงที่สุดในจีน มีจุดชมวิวและกิจกรรมผจญภัย เช่น การนั่งรถรางลอยฟ้า
วัดหกต้นโพธิ์ (Temple of the Six Banyan Trees): วัดพุทธเก่าแก่ที่มีเจดีย์ดอกไม้สูง 57 เมตร
เกาะชามี (Shamian Island): เกาะที่มีสถาปัตยกรรมยุโรปโบราณ เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายรูป
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์): อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิ 10-20 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนชื้นเหมือนฤดูร้อน
กวางโจวมีทั้งความทันสมัยและกลิ่นอายของอดีต รวมถึงเป็นเมืองที่เข้าถึงง่ายจากประเทศไทยด้วยเที่ยวบินตรง และมีอาหารท้องถิ่นที่อร่อยถูกปากคนไทย
เฉิงตูเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแพนด้าและอาหารเสฉวนที่มีรสชาติเผ็ดร้อน หากคุณรักสัตว์น่ารักและหลงใหลในรสชาติที่จัดจ้าน เฉิงตูคือหนึ่งใน Top 5 Cities in China ที่จะทำให้คุณประทับใจ
ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้า (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding): พบกับแพนด้าในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงธรรมชาติ
ถนนจินหลี่ (Jinli Street): ถนนคนเดินที่มีร้านอาหารและของที่ระลึกแบบดั้งเดิม
วัดวูโฮ่ว (Wuhou Temple): วัดที่รำลึกถึงขุนนางในสมัยสามก๊ก เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): อากาศเย็นลง อุณหภูมิ 10-20 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว
เฉิงตูมีเอกลักษณ์จากแพนด้าและอาหารเสฉวนที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว
ซีอานเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่มีชื่อเสียง ทำให้ซีอานเป็นหนึ่งใน Top 5 Cities in China สำหรับคนรักประวัติศาสตร์
สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ (Terracotta Army): กองทัพทหารดินเผากว่า 8,000 ตัว อายุกว่า 2,000 ปี
กำแพงเมืองซีอาน (Xi'an City Wall): กำแพงเมืองโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในจีน สามารถปั่นจักรยานชมวิวได้
หอระฆัง (Bell Tower): สัญลักษณ์ของเมืองที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): อากาศเย็นลง อุณหภูมิ 10-20 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าโปร่งใส
ซีอานเป็นแหล่งรวมมรดกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมจีนโบราณ
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วัน ภายใต้ข้อตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างไทยและจีน (ข้อมูล ณ ปี 2023) อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบนโยบายล่าสุดก่อนเดินทาง หากวางแผนอยู่เกิน 30 วันหรือมีวัตถุประสงค์อื่น เช่น ทำงานหรือเรียน ต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตจีนในประเทศไทย
มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง) ไปยังเมืองใน Top 5 Cities in China ดังนี้:
ปักกิ่ง: Thai Airways, Air China
เซี่ยงไฮ้: Thai Airways, China Eastern Airlines
กวางโจว: Thai Airways, China Southern Airlines
เฉิงตู: Thai AirAsia, China Southern Airlines
ซีอาน: Thai AirAsia (บางช่วงเวลา) ราคาตั๋วไป-กลับเริ่มต้นที่ 8,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสายการบิน
รถไฟความเร็วสูง: ตัวเลือกยอดนิยม เช่น ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น 500-1,000 หยวน
เครื่องบิน: เหมาะสำหรับระยะทางไกล เช่น ปักกิ่ง-เฉิงตู ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง
รถบัส: ราคาถูก เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นหรือไปยังเมืองเล็กๆ
แท็กซี่และแอปเรียกรถ: ใช้ Didi (คล้าย Uber) ซึ่งสะดวกและราคาไม่แพง
โรงแรมหรู: เช่น Marriott, Hilton, Shangri-La ราคาคืนละ 3,000-10,000 บาท
โรงแรมราคาประหยัด: เช่น Ibis, Holiday Inn Express ราคาคืนละ 1,000-2,000 บาท
เกสต์เฮาส์: ราคาคืนละ 300-800 บาท เหมาะสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์
Airbnb: มีตัวเลือกหลากหลายในเมืองใหญ่ ราคาเริ่มต้น 500-2,000 บาทต่อคืน
เงินสด: ใช้หยวนจีน (RMB) ในร้านค้าท้องถิ่นและตลาด
แอปพลิเคชัน: WeChat Pay และ Alipay เป็นที่นิยม แต่ต้องผูกบัญชีธนาคารจีนหรือบัตรเครดิตที่รองรับ
บัตรเครดิต: Visa, MasterCard ใช้ได้ในโรงแรมและห้างสรรพสินค้าใหญ่
ตรวจสอบสภาพอากาศ: เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม เช่น เสื้อกันหนาวสำหรับปักกิ่งในฤดูหนาว หรือร่มสำหรับเซี่ยงไฮ้ในฤดูร้อน
เรียนรู้ภาษาจีนพื้นฐาน: คำง่ายๆ เช่น "สวัสดี" (Ni Hao), "ขอบคุณ" (Xie Xie), "เท่าไหร่" (Duo Shao Qian) จะช่วยให้สื่อสารได้ง่ายขึ้น
ดาวน์โหลดแอปที่จำเป็น: Baidu Maps (นำทาง), Didi (เรียกรถ), WeChat (สื่อสารและชำระเงิน)
ระวังการหลอกลวง: เช่น การชวนไปร้านชาที่ราคาแพงเกินจริง หรือการขายของปลอมในสถานที่ท่องเที่ยว
ดูแลทรัพย์สิน: ใช้กระเป๋าที่มีซิปและระวังในที่แออัด เช่น ตลาดหรือสถานีรถไฟ
ปฏิบัติตามกฎหมาย: ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ และถ่ายรูปเฉพาะในจุดที่อนุญาต
ลองอาหารท้องถิ่น: เป็ดปักกิ่ง, ซาลาเปาเซี่ยงไฮ้, ติ่มซำกวางโจว, หม่าล่าเฉิงตู, บะหมี่ซีอาน
ดื่มน้ำสะอาด: ซื้อน้ำขวดหรือต้มน้ำดื่มเอง หลีกเลี่ยงน้ำประปา
ยาสามัญ: เตรียมยาแก้ปวด แก้ท้องเสีย หรือยาแพ้อากาศเผื่อไว้
ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, เฉิงตู, และซีอาน แต่ละเมืองมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของปักกิ่ง ความทันสมัยของเซี่ยงไฮ้ วัฒนธรรมผสมผสานของกวางโจว ความน่ารักของแพนด้าและอาหารเผ็ดของเฉิงตู หรือมรดกโลกของซีอาน เมืองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็น Top 5 Cities in China ในแง่ของความนิยม แต่ยังมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย
การเดินทางไปจีนในยุคนี้สะดวกสบายกว่าที่เคย ด้วยนโยบายยกเว้นวีซ่า เที่ยวบินตรง และระบบคมนาคมที่ทันสมัย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ สายช็อปปิ้ง หรือสายกิน เมืองทั้งห้าแห่งนี้มีทุกอย่างครบครัน อย่ารอช้า วางแผนทริปของคุณวันนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของจีนด้วยตัวคุณเอง!